เมื่อได้จดทะเบียนตามขั้นตอนของราชการไทยแล้วจะได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาต่อไป ฉบับราชกิจจานุเบกษาถือเป็นข้อความที่มีผลบังคับ

มูลนิธิมีอยู่ร่วมกับสมาคมได้มีตัวอย่างสำคัญ ได้แก่

  • มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มีอยู่ร่วมกับ สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย
  • มูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ มีอยู่ร่วมกับ สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
  • มูลนิธิโรตารี มูลนิธิสโมสรโรตารีกรุงเทพ มีอยู่ร่วมกับ สโมสรโรตารี สมาคมโรตารี

มูลนิธิเป็นแหล่งรวมเงิน สมาคมเป็นแหล่งรวมสมาชิก

ข้อบังคับมูลนิธิ edit

ในกรณียุบเลิก WMF ไม่ได้ระบุว่าจะต้องโอนทรัพย์สินอย่างไร แต่ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า

  1. First priority is Wikimedia Foundation (registered in USA)
  2. Lower priority is regional/local mission-aligned organization such as

ต้นแบบมาจาก http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/D/040/T_0034.PDF

ข้อบังคับมูลนิธิวิกิมีเดียประเทศไทย Wikimedia Thailand Bylaws
 
 
หมวดที่ ๑ ชื่อเครื่องหมายและที่ตั้ง Section 1: General provisions
๑. ข้อความทั่วไป
:๑.๑. มูลนิธินี้ชื่อว่า มูลนิธิวิกิมีเดียประเทศไทย
:๑.๒. มูลนิธินี้มีชื่อภาษาอังกฤษว่า “Wikimedia Thailand” มีอักษรย่อว่า “WMTH”
:๑.๓. เว้นแต่ในข้อบังคับนี้จะระบุความหมายไว้เป็นอย่างอื่น
:“มูลนิธิ” หมายความถึง มูลนิธิวิกิมีเดียประเทศไทย
:“คณะกรรมการ” หมายความถึง คณะกรรมการมูลนิธิ
:“โครงการวิกิมีเดีย” หมายความถึง โครงการของมูลนิธิวิกิมีเดีย ได้แก่ สารานุกรม พจนานุกรม สื่อ หนังสือ ตำรา ซอฟต์แวร์ และเนื้อหาอื่นตามที่ระบุไว้ใน https://meta.wikimedia.org/wiki/Wikimedia_projects
1.
๒. เครื่องหมายของมูลนิธิ
:๒.๑. เครื่องหมายของมูลนิธิประกอบไปด้วยสัญลักษณ์และชื่อมูลนิธิ ตามแนวทางปฏิบัติของมูลนิธิวิกิมีเดีย ปรากฏดังรูปด้านล่างนี้
 

:๒.๒. มูลนิธิไม่มีนโยบายในการใช้เครื่องหมายของมูลนิธิในทางการค้าหรือเพื่อแสวงหาผลกำไร
2.
๓. สำนักงานใหญ่ของมูลนิธิ ตั้งอยู่ที่ ... 3.
หมวดที่ ๒ วัตถุประสงค์ Section 2: Foundation's logo and office
๔. มูลนิธิมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
:๔.๑. ส่งเสริมการสร้าง พัฒนา บำรุงรักษา และคงสภาพทรัพยากรดิจิทัลในโครงการวิกิมีเดีย
:๔.๒. จัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความตระหนักถึงการเคลื่อนไหวและโครงการของวิกิมีเดีย ในประเทศไทย
:๔.๓. สนับสนุนการเข้าถึงเนื้อหาในโครงการวิกิมีเดียอย่างเต็มรูปแบบเพื่อประโยชน์ทางการศึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
:๔.๔. ดำเนินกิจกรรมเสริมสร้างความรู้แก่สาธารณชนทั่วไปโดยไม่แสวงหาผลกำไร มุ่งเน้นให้เกิดผลในประเทศไทยหรือเป็นภาษาไทยเป็นหลัก ทั้งนี้อาจดำเนินการที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศหรือในภาษาอื่นก็ได้
:๔.๕. เสริมสร้างความร่วมมือกับองค์กรในประเทศหรือต่างประเทศทั้งภาครัฐและเอกชนในการจัดกิจกรรมข้างต้น
4.
๕. ไม่จัดกิจกรรมทางการเมือง และไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมือง 5.
๖. มูลนิธิจะงดเว้นการการกระทำที่ส่งผลต่อเนื้อหาที่ปรากฎอยู่บนโครงการวิกิมีเดีย และไม่รับผิดชอบต่อผลทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากเนื้อหาเหล่านั้น 6.
หมวดที่ ๓ ทุนทรัพย์ ทรัพย์สิน การได้มาซึ่งทรัพย์สิน Section 3: Capital, Properties, and Acquisition of Property
๗. ทุนทรัพย์ของมูลนิธิมีทุนเริ่มแรก คือ เงินสด จำนวน xxx,xxx บาท รวมทั้งหมด xxx,xxx บาท 7.
๘. มูลนิธิอาจได้มาซึ่งทรัพย์สินโดยวิธีต่อไปนี้
:๘.๑. เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้ยกให้โดยพินัยกรรมหรือนิติกรรมอื่นที่มิได้มีเงื่อนไขผูกพันให้มูลนิธิ
:๘.๒. เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้
:๘.๓. ดอกผลซึ่งเกิดจากทรัพย์สินของมูลนิธิ
:๘.๔. รายได้อันเกิดจากการจัดกิจกรรมของมูลนิธิ
:๘.๕. รายได้อื่นจากการดำเนินกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ
8.
หมวดที่ ๔ คุณสมบัติและการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการ Section 4: Characteristics and Retirement of the Board
๙. กรรมการของมูลนิธิต้องมีคุณสมบัติดังนี้
:๙.๑. เป็นบุคคลสัญชาติไทยที่บรรลุนิติภาวะแล้ว
:๙.๒. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย ไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
:๙.๓. ไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาจำคุก เว้นแต่โทษสำหรับความผิดที่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
:๙.๔. มีส่วนร่วมในกิจกรรมของโครงการวิกิมีเดียอย่างสม่ำเสมอ
๑๐. กรรมการของมูลนิธิพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ
:๑๐.๑. ถึงคราวต้องออกจากวาระ
:๑๐.๒. ตายหรือลาออก
:๑๐.๓. ขาดคุณสมบัติตามข้อบังคับข้อ ๙
:๑๐.๔. เป็นผู้มีความประพฤติและปฏิบัติตนเป็นที่เสื่อมเสีย และคณะกรรมการมูลนิธิมีมติให้ออกโดยมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของคณะกรรมการมูลนิธิ
หมวดที่ ๕ การดำเนินงานของคณะกรรมการของมูลนิธิ Section 5:
๑๑. มูลนิธินี้ดำเนินการโดยคณะกรรมการมูลนิธิ มีจำนวนไม่น้อยกว่า ๓ คน แต่ไม่เกิน ๗ คน
๑๒. คณะกรรมการมูลนิธิ ตามข้อ ๙ ประกอบด้วยตำแหน่ง ประธานกรรมการมูลนิธิ รองประธานกรรมการมูลนิธิ เหรัญญิก เลขานุการมูลนิธิ และกรรมหารตำแหน่งอื่นตามที่คณะกรรมการมูลนิธิเห็นสมควร
๑๓. การแต่งตั้งกรรมการมูลนิธิตามข้อบังคับข้อ ๑๒. ให้คณะกรรมการมูลนิธิชุดที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบัน แต่งตั้งกรรมการมูลนิธิและกรรมการอื่นตามที่เห็นสมควรตามข้อบังคับที่ ๑๑. 13.
๑๔. กรรมการดำเนินงานมูลนิธิอยู่ในตำแหน่งคราวละ ๒ ปี 14.
๑๕. การแต่งตั้งคณะกรรมการมูลนิธิ ให้ถือเสียงข้างมากของที่ประชุมคณะกรรมการมูลนิธิเป็นมติของที่ประชุม
๑๖. กรรมการมูลนิธิที่พ้นตำแหน่งตามวาระ อาจได้รับแต่งตั้งเข้าเป็นกรรมการมูลนิธิได้อีก และในกรณีที่กรรมการของมูลนิธิพ้นจากตำแหน่งจากการถึงของคราวออกตามวาระ ให้คณะกรรมการของมูลนิธิที่พ้นจากตำแหน่งจากการถึงคราวครบวาระ ปฏิบัติหน้าที่กรรมการของมูลนิธิต่อไปจนกว่ามูลนิธิจะได้รับแจ้งการจดทะเบียนแต่งตั้งกรรมการของมูลนิธิขึ้นใหม่จากนายทะเบียน
๑๗. ถ้าตำแหน่งของกรรมการมูลนิธิว่างลง ให้คณะกรรมการที่เหลืออยู่สรรหาและลงมติ ตั้งบุคคลอื่นเป็นกรรมการมูลนิธิแทนตำแหน่งที่ว่าง กรรมการมูลนิธิผู้ได้รับการแต่งตั้งแทนให้อยู่ในตำแหน่งได้เพียงตามวาระของกรรมการผู้ที่ตนแทนเท่านั้น
หมวดที่ ๖ อำนาจหน้าที่คณะกรรมการมูลนิธิ
๑๘. คณะกรรมการมูลนิธิมีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินกิจการของมูลนิธิตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ และภายใต้ข้อบังคับนี้ ให้มีอำนาจต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
:๑๘.๑. กำหนดนโยบายของมูลนิธิ และดำเนินการตามนโยบายนั้น
:๑๘.๒. ควบคุมการเงินและทรัพย์สินทั้งปวงของมูลนิธิ
:๑๘.๓. เสนอรายงานกิจกรรม รายงานการเงินและบัญชีรายรับ - รายจ่าย ต่อนายทะเบียน
:๑๘.๔. ดำเนินการให้เป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการมูลนิธิและวัตถุประสงค์ของข้อบังคับนี้
:๑๘.๕. ตราระเบียบเกี่ยวกับการดำเนินกิจการของมูลนิธิ
:๑๘.๖. แต่งตั้งหรือถอดถอนคณะอนุกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง หรือหลายคณะ เพื่อดำเนินการเฉพาะอย่างของมูลนิธิภายใต้การควบคุมของคณะกรรมการมูลนิธิ
:๑๘.๗. เชิญผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ทรงเกียรติ หรือบุคคลที่ทำประโยชน์ให้มูลนิธิเป็นพิเศษเป็นกรรมการกิติมศักดิ์ ผู้อุปถัมภ์ ที่ปรึกษา หรือ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ โดยกำหนดวาระตามสมควรไม่เกินวาระของคณะกรรมการที่เชิญ

การดำเนินการตามข้อนี้ให้ใช้มติเสียงข้างมากของที่ประชุมในการอนุมัติ ||

๑๙. ประธานกรรมการมูลนิธิมีอำนาจดังนี้
:๑๙.๑. เป็นประธานของการประชุมกรรมการมูลนิธิ
:๑๙.๒. สั่งเรียกประชุมคณะกรรมการมูลนิธิ
:๑๙.๓. เป็นผู้แทนของมูลนิธิในการติดต่อกับบุคคลภายนอก หรือการลงลายมือชื่อในเอกสารข้อบังคับและสรรพหนังสือ อันเป็นหลักฐานของมูลนิธิ
:๑๙.๔. ปฏิบัติการอื่นตามข้อบังคับ และมติของคณะกรรมการมูลนิธิ
๒๐. ให้รองประธานการรมการมูลนิธิทำหน้าที่แทนประธานกรรมการมูลนิธิ เมื่อประธานไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ หรือในกรณีที่ประธานมอบหมายให้ทำการแทน
๒๑. ถ้าประธานกรรมการมูลนิธิและรองประธานกรรมการมูลนิธิ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในการประชุมคราวหนึ่งคราวใดได้ ให้ที่ประชุมเลือกตั้งกรรมการมูลนิธิคนใดคนหนึ่งเป็นประธานสำหรับการประชุมคราวนั้น
๒๒. เลขานุการมูลนิธิมีหน้าที่ควบคุมกิจการ และดำเนินการประชุมของมูลนิธิ ติดต่อประสานงานทั่วไป รักษาระเบียบข้อบังคับมูลนิธิ นัดประชุมกรรมการตามคำสั่งของประธานกรรมการมูลนิธิ และทำรายงานการประชุม ตลอดจนรายงานกิจการของมูลนิธิ
๒๓. เหรัญญิกมีหน้าที่ควบคุมการเงิน ทรัพย์สินของมูลนิธิ ตลอดจนบัญชี และเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้อง และเป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการมูลนิธิกำหนด
๒๓. สำหรับกรรมการตำแหน่งอื่นให้มีหน้าที่ตามที่คณะกรรมการมูลนิธิกำหนด โดยทำเป็นคำสั่งระบุอำนาจหน้าที่ชัดเจน
๒๔. คณะกรรมการมูลนิธิมีสิทธิเข้าร่วมประชุมกรรมการ หรืออนุกรรมการอื่นของมูลนิธิได้
หมวดที่ ๗ อนุกรรมการ Section 7:
๒๕. คณะกรรมการมูลนิธิอาจแต่งตั้งหรือถอดถอนอนุกรรมการได้ตามความเหมาะสม โดยจะแต่งตั้งให้เป็นคณะอนุกรรมการประจำ หรือเพื่อการใดเป็นกรณีพิเศษคราวใดก็ได้ และในกรณีที่คณะกรรมการแต่งตั้งประธานคณะอนุกรรมการ เลขานุการหรืออนุกรรมการตำแหน่งอื่นไว้ ก็ให้อนุกรรมการและคณะแต่งตั้งกันเองดำรงตำแหน่งดังกล่าวได้
๒๖. อนุกรรมการอยู่ในตำแหน่งจนกว่าจะเสร็จภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้กระทำ ส่วนคระอนุกรรมการประจำอยู่ในตำแหน่งตามระยะเวลาที่คณะกรรมการมูลนิธิกำหนด ซึ่งถ้ามิได้กำหนดไว้ให้อยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่าวาระของคณะกรรมการมูลนิธิซึ่งเป็นผู้แต่งตั้ง และอนุกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งอาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้
:๒๖.๑. อนุกรรมการมีหน้าที่ดำเนินการตามที่คณะกรรมการมูลนิธิมอบหมาย
:๒๖.๒. อนุกรรมการมีหน้าที่เสนอความคิดเห็นต่อคณะกรรมการมูลนิธิเกี่ยวกับงานที่ได้รับมอบหมาย
หมวดที่ ๘ การประชุมคณะกรรมการมูลนิธิ Section 8:
๒๗. คณะกรรมการมูลนิธิต้องจัดให้มีการประชุมสามัญประจำทุกปี ภายในเดือน... และต้องมีกรรมการมูลนิธิเข้าประชุมอย่างน้อยกึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม
๒๘. การประชุมวิสามัญอาจมีได้ในเมื่อประธานกรรมการมูลนิธิ หรือเมื่อกรรมการมูลนิธิตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปแสดงความประสงค์ไปยังประธานกรรมการมูลนิธิ หรือผู้ทำการแทนหรือเลขานุการมูลนิธิ ขอให้มีการประชุม สำหรับองค์ประชุมให้ใช้ข้อ ๒๗ บังคับโดยอนุโลม
๒๙. กำหนดการประชุมและองค์ประชุมของคณะอนุกรรมการให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการมูลนิธิกำหนดไว้ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประชุมให้คณะอนุกรรมการตกลงกันเอง และในส่วนที่เกี่ยวข้องกับองค์ประชุมให้ใช้ข้อ ๒๗ บังคับโดยอนุโลม
๓๐. ในการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิหรือคณะอนุกรรมการ หากมิได้มีข้อบังคับกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น มติของที่ประชุมให้ถือเอาคะแนนเสียงข้างมาก ในกรณีที่มีคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมเป็นผู้ชี้ขาด กิจการใดที่เป็นงานประจำหรือเป็นกิจการเล็กน้อย ประธานกรรมการมูลนิธิมีอำนาจสั่งให้ใช้วิธีสอบถามมติทางหนังสือแทนการเรียกประชุมคณะกรรมการมูลนิธิ แต่ประธานกรรมการมูลนิธิต้องรายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการมูลนิธิในคราวต่อไป ถึงมติและกิจการที่ได้ดำเนินการไปตามมตินั้น กิจการใดเป็นงานประจำหรือเป็นกิจการเล็กน้อยหรือไม่ ย่อมอยู่ในดุลพินิจของประธานกรรมการมูลนิธิ หรือเลขานุการมูลนิธิ
๓๑. ในการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิหรือคณะอนุกรรมการ ประธานกรรมการมูลนิธิ หรือประธานในที่ประชุมมีอำนาจเชิญหรืออนุญาตให้บุคคลที่เห็นสมควรเข้าร่วมประชุมในฐานะแขกผู้มีเกียรติ หรือผู้สังเกตการณ์ หรือเพื่อชี้แจง หรือเพื่อให้คำปรึกษาแก่ที่ประชุมได้
หมวดที่ ๙ การเงิน
๓๒. ประธานกรรมการมูลนิธิ หรือรองประธานกรรมการมูลนิธิในกรณีทำหน้าที่แทนมีอำนาจสั่งจ่ายเงินได้คราวละไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ถ้าเกินกว่าจำนวนดังกล่าว ต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการมูลนิธิโดยเสียงข้างมาก เว้นแต่กรณีจำเป็นเร่งด่วนให้อยู่ในดุลยพินิจของประธานกรรมการมูลนิธิที่จะอนุมัติให้จ่ายได้ แต่ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) แล้วต้องรายงานให้คณะกรรมการมูลนิธิรับทราบในการประชุมคราวต่อไป
๓๓. เหรัญญิกมีอำนาจเก็บรักษาเงินสดได้ครั้งละไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน)
๓๔. เงินสดของมูลนิธิต้องนำไปฝากไว้กับธนาคาร หรือสถาบันการเงินใดที่รัฐบาลให้ค้ำประกัน แล้วแต่คณะกรรมการมูลนิธิเห็นสมควร และหากมูลนิธิประสงค์จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรือตราสารหนี้ให้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการก่อน
๓๕. การสั่งจ่ายเงินของมูลนิธิโดยเช็คต้องมีลายมือชื่อประธานกรรมการมูลนิธิ หรือผู้ทำการแทนกับเลขานุการหรือเหรัญญิก ลงนามทุกครั้ง จึงจะเบิกจ่ายได้
๓๖. การใช้จ่ายเงินตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ รวมทั้งค่าใช้จ่ายประจำสำนักงานให้จ่ายจากทรัพย์สินของมูลนิธิ หากมีทรัพย์สินเพียงพอจ่ายค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้ไม่ถึงหนึ่งปีให้ถือเป็นเหตุเลิกมูลนิธิตามข้อ ๔๑.๔
๓๗. ให้คณะกรรมการมูลนิธิวางระเบียบเกี่ยวกับการเงิน บัญชี และทรพย์สินของมูลนิธิ ตลอดจนกำหนดอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการรับและจ่ายเงิน ให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ
๓๘. ให้คณะกรรมการมูลนิธิจัดทำรายงานสถานะการเงินของมูลนิธิในรอบระยะเวลาบัญชีที่ผ่านมาเสนอต่อที่ประชุมในการประชุมสามัญประจำปี
หมวดที่ ๑๐ การแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังครับของมูลนิธิ
๓๙. การแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับกระทำได้ โดยเฉาะในที่ประชุมกรรมการมูลนิธิ ซึ่งต้องมีกรรมการมูลนิธิเข้าประชุมไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนกรรมการทั้งหมด และการอนุมัติให้แก้ไขข้อบังคับต้องประกอบด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการที่เข้าประชุม
หมวดที่ ๑๑ การเลิกมูลนิธิ
๔๐. หากมูลนิธิต้องเลิกด้วยเหตุผลใดก็ตาม ให้คืนทรัพย์สินทั้งหมดกลับไปยังมูลนิธิวิกิมีเดียที่จดทะเบียนในประเทศสหรัฐอเมริกา
๔๑. การสิ้นสุดของมูลนิธินั้น นอกจากที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้ว ให้มูลนิธิเป็นอันสิ้นสุดลงโดยมิต้องให้ศาลเลิกสั่งด้วยเหตุผลต่อไปนี้
:๔๑.๑ เมื่อมูลนิธิได้รับจดทะเบียบจัดตั้งเป็นนิติบุคคลจากนายทะเบียนแล้ว ไม่ได้รับทรัพย์สินคำมั่นเต็มจำนวน
:๔๑.๒ เมื่อกรรมการมูลนิธิจำนวนสองในสามมีมติให้ยกเลิก
:๔๑.๓ เมื่อมูลนิธิไม่อาจหากรรมการได้ครบตามจำนวนกรรมการที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของมูลนิธิ
:๔๑.๔ เมื่อมูลนิธิไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ไม่ว่าด้วยเหตุใด
หมวดที่ ๑๒ บทเฉพาะกาล
๔๒. ให้ผู้เริ่มก่อการจัดตั้งทุกคนดำรงตำแหน่งคณะกรรมการมูลนิธิ จนถึงการเลือกตั้งประธานกรรมการมูลนิธิครั้งแรก
๔๓. ให้ใช้ข้อบังคับนี้ตั้งแต่วันที่นายทะเบียนได้รับจดทะเบียนและประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามกฎหมายไทยเป็นต้นไป
หมวดที่ ๑๓ บทเบ็ดเตล็ด
๔๔. หากเป็นที่สงสัยการตีความในข้อบังคับมูลนิธิ ให้คณะกรรมการมูลนิธิโดยเสียงข้างมากของจำนวนกรรมการที่มีอยู่เป็นผู้ชี้ขาด
๔๕. เมื่อข้อบังคับของมูลนิธิมิได้กำหนดไว้ ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยมูลนิธิมาใช้บังคับ
๔๖. มูลนิธิต้องไม่ดำเนินการหาผลประโยชน์มาแบ่งปันกันหรือเพื่อบุคคลใด นอกจากเพื่อดำเนินตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิเท่านั้น

ข้อบังคับสมาคม edit

ข้อบังคับวิกิมีเดียประเทศไทย Wikimedia Thailand Bylaws
 
 
หมวดที่ ๑ บททั่วไป Section 1: General provisions
๑. ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสมาคมวิกิมีเดียประเทศไทย พ.ศ. xxxx” 1. This bylaws shall be known as "Wikimedia Thailand Association Bylaws B.E. xxxx"
๒. เว้นแต่ในข้อบังคับนี้จะระบุความหมายไว้เป็นอย่างอื่น
:“สมาคม” หมายความถึง สมาคมวิกิมีเดียประเทศไทย
:“สมาชิก” หมายความถึง สมาชิกสมาคมวิกิมีเดีย ประเทศไทย ทุกประเภท
:“คณะกรรมการ” หมายความถึง คณะกรรมการอำนวยการสมาคม
:“โครงการวิกิมีเดีย” หมายความถึง โครงการต่าง ๆ ของมูลนิธิวิกิมีเดีย ซึ่งประกอบด้วย สารานุกรม พจนานุกรม สื่อ หนังสือ ตำรา ซอฟต์แวร์ และเนื้อหาอื่น ๆ ตามที่ระบุไว้ใน https://meta.wikimedia.org/wiki/Wikimedia_projects
2. Unless stated otherwise:
:"The Association" refers to Wikimedia Thailand Association.
:"Members" refer to members of the Association from all classes of membership.
:"The Board" includes board members of the Association.
:"Wikimedia projects" refer to all projects hosted by the Wikimedia Foundation including Wikipedia, Wiktionary, Wikimedia Commons, Wikibooks, Wikiversity, Mediawiki and other projects stated in https://meta.wikimedia.org/wiki/Wikimedia_projects.
หมวดที่ ๒ เครื่องหมายและที่ตั้งสมาคม Section 2: Association's logo and office
๓. สมาคมนี้มีชื่อว่า “สมาคมวิกิมีเดีย ประเทศไทย” โดยเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า “Wikimedia Thailand” มีอักษรย่อว่า “WMTH” 3. The association shall be known as “สมาคมวิกิมีเดีย ประเทศไทย” which is "Wikimedia Thailand Association" in English, abbreviated hereinafter to WMTH.
๔. เครื่องหมายของสมาคม
:๔.๑. เครื่องหมายของสมาคมประกอบไปด้วยสัญลักษณ์และชื่อสมาคม ตามแนวทางปฏิบัติของมูลนิธิวิกิมีเดีย
:๔.๒. สมาคมไม่มีนโยบายในการใช้เครื่องหมายของสมาคมในทางการค้าหรือเพื่อแสวงหาผลกำไร
4. Association's logo
:4.1 Association's logo comprises of symbol and name of the Association, constructed according to the visual identity guidelines of the Wikimedia Foundation.
:4.2 The Association shall not use the organizational logo for profit-making purposes.
๕. สำนักงานของสมาคม (รอประกาศภายหลัง) 5. Association's office (TBA)
หมวดที่ ๓ วัตถุประสงค์ Section 3: Purposes
๖. สมาคมมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
:๖.๑. ส่งเสริมการสร้าง การพัฒนาและการคงสภาพของเนื้อหาต่าง ๆ ในโครงการวิกิมีเดีย ในประเทศไทย
:๖.๒. จัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความตระหนักถึงการเคลื่อนไหวและโครงการต่าง ๆ ของวิกิมีเดีย ในประเทศไทย
:๖.๓. สนับสนุนการเข้าถึงเนื้อหาในโครงการวิกิมีเดียอย่างเต็มรูปแบบเพื่อประโยชน์ทางการศึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
:๖.๔. ดำเนินกิจกรรมสังคมสงเคราะห์ เสริมสร้างความรู้แก่สาธารณชนทั่วไป โดยไม่แสวงหาผลกำไร ในประเทศไทย
:๖.๕. เสริมสร้างความร่วมมือกับองค์กรในประเทศหรือต่างประเทศทั้งภาครัฐและเอกชนในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ข้างต้น
6. Purposes of the Association are:
:6.1 To support the creation, development and maintenance of the content in all Wikimedia projects in Thailand
:6.2 To conduct activities that promote the awareness of the Wikimedia movement and its projects in Thailand
:6.3 To promote free and full access to content across Wikimedia projects for purpose of education
:6.4 To conduct humanitarian activities and promote public knowledge without profit-making purposes in Thailand
:6.5 To partner up with governmental and private organizations at national and international levels in organizing the aforementioned activities
๗. ไม่จัดกิจกรรมทางการเมือง และไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองใด ๆ 7. The Association does not organize political activities, and is not related to any political movement.
๘. สมาคมจะงดเว้นการการกระทำที่ส่งผลต่อเนื้อหาที่ปรากฎอยู่บนโครงการวิกิมีเดีย และไม่รับผิดชอบต่อผลทางกฎหมายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากเนื้อหาเหล่านั้น 8. The Association shall abstain from taking any influence on the content present in Wikimedia projects, and shall not be responsible for any legal consequences potentially resulted from those content.
หมวดที่ ๔ สมาชิกและสิทธิของสมาชิก Section 4: Membership and member rights
๙. ในการสมัครเข้าเป็นสมาชิก ให้ผู้ประสงค์จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมยื่นหลักฐานดังต่อไปนี้ต่อคณะกรรมการ
:๙.๑. ใบสมัครสมาชิกที่กรอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว
:๙.๒. สำเนาบัตรประชาชนและ/หรือเอกสารแสดงตนอื่นตามที่คณะกรรมการร้องขอ
9. As per the application procedure, applicants must present the following documents to the Board:
:9.1 Completely filled application form
:9.2 Copy of the national identity card and/or any other identification document(s) as requested by the Board
๑๐. คณะกรรมการเป็นผู้พิจารณาการสมัคร คำตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุดในทุกกรณี โดยคณะกรรมการจะแจ้งผลการพิจารณาภายใน ๑๕ วันหลังจากวันที่รับเรื่องและจะไม่มีการเผยแพร่ข้อมูลการสมัครสู่สาธารณะ 10. The Board shall have the right to approve or reject prospective member's application in its absolute discretion. Applicants shall be notified of the decision within 15 days after submission. Decision of the Board shall not be made available to the public.
๑๑. สมาชิกแบ่งออกเป็นสามประเภทคือ
:๑๑.๑. สมาชิกสามัญ ได้แก่บุคคลที่มีส่วนร่วมแบบออนไลน์ และ/หรือ ออฟไลน์ในโครงการต่าง ๆ ของวิกิมีเดีย และได้แสดงหลักฐานถูกต้องตามที่ปรากฏในข้อ ๙
:๑๑.๒. สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ผู้ทรงคุณวุฒิที่คณะกรรมการต้องมีลงมติให้เชิญเป็นสมาชิกของสมาคมเนื่องจาก (1) เป็นผู้ที่มีคุณูปการต่อสังคม หรือ (2) ผู้มีอุปการะคุณแก่สมาคม หรือ (3) เคยดำรงตำแหน่งกรรมการสมาคม
:๑๑.๓. อนุสมาชิก ได้แก่บุคคลที่มีคุณสมบัติตามข้อ ๑๑.๑ แต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะในวันที่ยื่นหลักฐานการสมัคร และต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดาหรือผู้แทนโดยชอบธรรมให้ดำเนินการดังกล่าวได้ เมื่อบรรลุนิติภาวะแล้ว ให้เปลี่ยนสถานะเป็นสมาชิกสามัญทันที
11. There shall be three classes of membership including:
:11.1 Ordinary members are members who have had online and/or offline contributions to Wikimedia projects, and have presented valid documents as listed in Article 9.
:11.2 Honorary members are emeriti who are invited by the consensus of the Board for their (i) meritorious service to the society; or (ii) distinguished service to the Association; or (iii) previous service as Board member.
:11.3 Junior members are members who posing the qualifications as listed in the Article 11.1 but have not yet come of age at the time of application. Parental or guardian approval is required. Once attained the age of majority, the membership class shall be changed to ordinary member immediately.
๑๒. สมาคมไม่เรียกเก็บค่าบำรุงจากสมาชิก 12. The Association shall not collect membership fees.
๑๓. สมาชิกภาพย่อมสิ้นสุดลงตามข้อใดข้อหนึ่งในเงื่อนไขดังต่อไปนี้
:๑๓.๑. ตาย
:๑๓.๒. ลาออก
:๑๓.๓. เมื่อไม่มีส่วนร่วมในกิจกรรมใด ๆ ของสมาคมเป็นระยะเวลาสองปี
:๑๓.๔. กรรมการลงมติให้ขาดจากสมาชิกภาพ เนื่องจากความประพฤติเสื่อมเสียหรือเหตุผลอื่นใดที่เป็นปฏิปักษ์ต่อพันธกิจของสมาคม
13. Membership shall end when at least one of the the following conditions is met:
:13.1 Death
:13.2 Resignation
:13.3 Remaining absent from the Association's activities for at least two years
:13.4 Dismissal upon the resolution of the Board for misconduct or whatever reason that undermines the Association's mission
๑๔. สิทธิของสมาชิก
:๑๔.๑. มีสิทธิในการเสนอชื่อ ถูกเสนอชื่อ และเลือกกรรมการสมาคม
:๑๔.๒. มีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต่อคณะกรรมการที่เกี่ยวกับการดําเนินงานและความก้าวหน้าของสมาคม
:๑๔.๓. มีสิทธิเข้าร่วม เสนอญัตติ และออกเสียงลงมติต่าง ๆ ในการประชุมใหญ่ หรืองานประชุมในลักษณะอื่นที่สมาคมจัดขึ้น
14. Members have the right:
:14.1 To nominate, be nominated, and elect board members
:14.2 To bring forth any opinion that is deemed necessary for the operation and the best interests of the Association
:14.3 To attend, put forward motions and vote in the annual assembly or any other meetings hosted by the Association
หมวดที่ ๕ คณะกรรมการอำนวยการและการดำเนินกิจการสมาคม Section 5: The Board and operation of the Association
๑๕. ให้มีคณะกรรมการอำนวยการทำหน้าที่กำหนดนโยบาย บริหารกิจการและการตัดสินใจของสมาคม 15. The Board shall oversee the policies, procedures and be the decision making body of the Association.
๑๖. ให้สมาชิกสามัญเสนอรายชื่อและพิจารณาลงมติคัดเลือกกรรมการสมาคมโดยยึดเสียงข้างมากของที่ประชุมเป็นหลัก และให้ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งให้เป็นกรรมการสมาคมลงมติกันเองเพื่อเลือกนายกสมาคม อุปนายกสมาคม เลขาธิการ เหรัญญิก และกรรมการฝ่ายอื่น ๆ ของสมาคม 16. The board members shall be elected by the majority vote of the ordinary members present at a meeting. The elected board members shall seek internal consensus on the appointment of the President, Vice President, Secretary and Treasurer.
๑๗. ตำแหน่งและหน้าของกรรมการสมาคมมีดังต่อไปนี้

:๑๗.๑. นายกสมาคม ปฏิบัติงานเป็นหัวหน้าในการบริหารกิจการและการดำเนินกลยุทธ์​ของสมาคมภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการสมาคม และทำหน้าที่เป็นประธานในงานประชุมใหญ่ของสมาคมและมีสิทธิเรียกประชุมกรรมการสมาคมตามความเหมาะสม
:๑๗.๒. อุปนายกสมาคม ปฏิบัติแทนนายกสมาคมเมื่อนายกสมาคมไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ด้วยตนเองได้ ให้อุปนายกสมาคมทำหน้าที่แทนและมีอำนาจเทียบเท่านายกสมาคม
:๑๗.๓. เลขาธิการ ทำหน้าที่เกี่ยวกับงานธุรการ งานประชาสัมพันธ์ งานสื่อสารของสมาคม หรือปฏิบัติตามคำสั่งของนายกสมาคมรวมถึงทำหน้าที่เป็นเลขานุการในการประชุมต่าง ๆ ของสมาคม
:๑๗.๔. เหรัญญิก ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเงินของสมาคม เป็นผู้จัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย เก็บใบเสร็จและใบสำคัญรับเงินไว้เพื่อการตรวจสอบ
:๑๗.๕. กรรมการฝ่ายอื่น ๆ ตามความเหมาะสม

17. Board members' positions and duties are prescribed below:

:17.1 The President shall be responsible for overseeing the administration, and strategic plan of the Association under supervision of the Board. The President shall also serve as presiding officer at the annual assembly of the Association, and shall have the right to call for Board meeting whenever deemed appropriate.
:17.2 The Vice President shall perform the duties as prescribed by the President. In the absence of the President, the Vice President shall have the powers and be subject to all restrictions upon the President.
:17.3 The Secretary shall perform administrative duties, public relations, or as instructed by the President. The Secretary shall keep an accurate record of the proceedings of the annual assembly and other meetings of the Association.
:17.4 The Treasurer shall perform all financial duties of the Association by providing financial report, and keeping record of all receipts or proofs of payment for verification.
:17.5 Ad hoc member to carry out specific actions wherever deemed necessary

๑๘. กรรมการอำนวยการชุดหนึ่ง ๆ อยู่ในตำแหน่งคราวละ ๒ ปี เมื่อครบวาระให้ปฏิบัติตามข้อ ๑๕ หากตำแหน่งว่างลงเพราะเหตุอื่นนอกจากถึงคราวออกตามวาระ ให้คณะกรรมการอำนวยการลงมติคัดเลือกสมาชิกสามัญมาดำรงตำแหน่งแทนกรรมการที่ว่าง แต่ทั้งนี้ ให้กรรมการที่เข้ามารับตำแหน่งอยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่ากำหนดเวลาของผู้ซึ่งตนแทนเท่านั้น 18. The Board term shall expire after two years. When the term ends, conduct as outlined in Article 15. In case of a Board member vacancy from whatever cause arising, the vacancy shall be filled by an ordinary member according to affirmative vote of the majority of the Board Members remaining in office. The newly elected Board member shall remain in office for a partial term only.
๑๙. กรรมการอำนวยการจะขาดจากตำแหน่งหากบรรลุหนึ่งในเงื่อนไขดังต่อไปนี้
:๑๙.๑. ถึงคราวออกตามวาระ
:๑๙.๒. ตาย
:๑๙.๓. ลาออก
:๑๙.๔. พ้นจากสมาชิกสภาพของสมาคม
19. Board Members shall be dismissed from the Board when at least one the following conditions is met:
:19.1 Completion of the term
:19.2 Death
:19.3 Resignation
:19.4 Dismissal from the Association's membership
หมวดที่ ๖ การประชุมใหญ่ Section 6: Annual assembly
๒๐. ให้มีการประชุมใหญ่อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง และต้องมีสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่า 20 รายหรือกึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมด ให้นายกสมาคมเป็นผู้กำหนดวัน เวลาและสถานที่ของการประชุมโดยมีมติจากคณะกรรมการสมาคม 20. There shall be at least one annual assembly per fiscal year. The assembly shall be valid only if attended by at least 20 ordinary members or half of the ordinary members. The date, time, and place of any shall be set by the President with consensus of the Board.
๒๑. ให้นายกสมาคมเป็นประธานที่ประชุม ถ้านายกไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้อุปนายกสมาคมเป็นประธานในที่ประชุมแทน ในกรณีที่อุปนายกสมาคมไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งกรรมการคนใดคนหนึ่งขึ้นเป็นประธานในที่ประชุมเฉพาะการประชุมในคราวนั้น 21. The President shall act as Chair in the annual assembly. In the absence of the President, the Vice President shall act as Chair. In the absence of both President and Vice President, members present in the meeting shall vote to seek a temporary deputy Chair.
๒๒. ให้ที่ประชุมถือคะแนนเสียงข้างมากในที่ประชุมเป็นเกณฑ์ ยกเว้นในกรณีที่กำหนดไว้ หากคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมเป็นผู้ชี้ขาด 22. A quorum shall consist of a simple majority of the total number of voting members present in the meeting. Unless indicated otherwise, the Chair's decision shall be considered finalized in case of equal votes.
๒๓. กิจการอันพึงต้องกระทำในการประชุมใหญ่มีอย่างน้อยดังนี้
:๒๓.๑ รับรองรายงานการประชุมและติดตามผลจากกระประชุมครั้งก่อนหน้า
:๒๓.๒ รายงานประจำปีแสดงผลการดำเนินกิจการของสมาคมที่ผ่านมาในรอบปี
:๒๓.๓ พิจารณารายรับ-รายจ่ายและงบการเงินของสมาคม
:๒๓.๔ วางแผนการดำเนินกิจการในปีต่อไป
:๒๓.๕ พิจารณาเรื่อง/ญัตติอื่น ๆ (ถ้ามี)
23. The annual assembly shall include at least but not limited to the following agenda:
:23.1 Approval of the minutes and follow-ups from a previous meeting
:23.2 Annual progress and annual report of the Association
:23.3 Revenues, expenditures and financial report of the Association
:23.4 Strategic planning of the upcoming fiscal year
:23.5 Any other agenda/motions (if any)
หมวดที่ ๗ การแก้ไขข้อบังคับ Section 7: Bylaws amendments
๒๔. การเพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือยกเลิกข้อบังคับนี้ สามารถทำได้ในการประชุมใหญ่ และต้องมีมติอย่างน้อยสองในสามของจำนวนสมาชิกที่เข้าร่วมการประชุม 24. The power to make, amend, or repeal these bylaws is vested in the annual meeting. Proposed amendments will be introduced and voted upon approval of a two-thirds majority at the meeting.
หมวดที่ ๘ การเลิกสมาคม Section 8: Dissolution of the Association
๒๕. หากสมาคมต้องเลิกด้วยเหตุผลใดก็ตาม ให้คืนทรัพย์สินทั้งหมดกลับไปยังมูลนิธิวิกิมีเดีย 25. In the event of dissolution of the Association for whatever reason, all remaining revenue shall be returned to the Wikimedia Foundation.
หมวดที่ ๙ บทเฉพาะกาล Section 9: Temporary provisions
๒๖. ให้ผู้เริ่มก่อการจัดตั้งทุกคนดำรงตำแหน่งคณะกรรมการสมาคม จนถึงการเลือกตั้งนายกสมาคมครั้งแรก 26. The founding Board members of the Association shall consist of those individuals named in the articles of incorporation. Such persons shall hold office until the first election of the President.
๒๗. ให้ใช้ข้อบังคับนี้ตั้งแต่วันที่นายทะเบียนได้รับจดทะเบียนและประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามกฎหมายไทยเป็นต้นไป 27. These bylaws shall be effective immediately upon the articles of incorporation and publication in the Royal Thai Government Gazette according to the Thai law.